Thursday, April 3, 2014

เรื่องเล่าจากห้องเรียน 1: Your Coach or Your Mama?

วันนี้พี่มี presentation กลุ่มในวิชา Psychology of Leadership หรือจิตวิทยาการการเป็นผู้นำ
ซึ่งการรายงานหน้าชั้นครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Class Film Festival หรือเทศกาลภาพยนต์ของวิชานี้
สนุกดี เลยอยากจะเอามาเล่าให้น้องๆฟังกันค่า 


ก่อนอื่นเลยขอพูดคร่าวๆก่อนแล้วกันนะว่าวิชานี้เรียนอะไรบ้าง ก็เรียนตรงตัวเลยค่ะ วิชานี้ถือเป็นวิชาจิตวิทยา แต่แทนที่จะเรียนอะไรเจาะลึก ทำการทดลองต่างๆเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ของคนเรา วิชานี้เขาเปิดกว้างให้นักเรียนที่ไม่มีพื้นฐานทางสาขานี้มาลงเรียนได้เลย คือเป็น applied psychology ไม่ใช่จิตวิทยาแบบเพียวๆ หนักๆ เหมือนคนที่เรียนเอกนี้เค้าเรียนกัน แต่พี่ก็มีเพื่อนๆที่เรียนจิตวิทยาหลายคนมาลงเรียนเหมือนกัน

ส่วนใหญ่ที่เรียนคือประเภทของผู้นำ อ่านบทความและงานวิจัยเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ ประเภทของบุคคลที่แตกต่างกันและวิธีการโน้มน้าวจิตใจคน อะไรประมาณนี้ ก็จะมีทฤษฎีมาให้เรียนเยอะเหมือนกันค่ะ แล้วก็เอามาถกเถียงเปรียบเทียบกัน แต่ที่พี่ชอบมากๆคืออาจารย์ของพี่แกค่อนข้างจะแหวกแนว และอาร์ตๆนิดนึง คือจะมีกิจกรรมหรือโปรเจกต์อะไรแหวกๆมาให้ทำตลอด อย่างเช่นพรีเซนเทชั่นในวันนี้!!

 สำหรับงานที่ได้รับมอบหมายวันนี้คือนักเรียนต้องไปเลือกคลิปวิิดิโอสั้นๆจากภาพยนต์เรื่องอะไรก็ได้หรือจะหลายเรื่องประกอบกันก็ได้ แล้วพูดอธิบายว่าคลิปนี้แสดงถึงความเป็นผู้นำยังไง มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เราเรียนไป สามารถเป็นตัวอย่างอธิบายทฤษฎีไหนของนักเขียนท่านใดได้บ้าง พรีเซนต์ทั้งหมดความยาวกลุ่มละ  17 นาที รวมเวลาเปิดคลิปและตอบคำถามด้วย

กลุ่มของเลือกสองเรื่องค่ะ คือ The Blindside และ Chicken Run  ตอนแรกเลยก็คือนัดกันมาแบ่งงานก่อนว่าเธอจะทำตรงไหนยังไง คือโตๆกันแล้วเราก็แค่แบ่งงานกันไปรับผิดชอบ บอกให้ชัดเจนว่าพูดคนละกี่นาทีเสร็จแล้วต่างคนก็ต่างเตรียมตัวในส่วนของตัวเองก่อนจะมาพรีเซนต์ด้วยกัน  เราได้รับมอบหมายงานและอาจารย์ก็จับกลุ่มให้ในห้องเรียนตอนวันจันทร์และพรีเซนต์วันพฤหัส เวลามีน้อยและไม่ค่อยว่างกันเท่าไหร่ ก็เลยไม่มีเวลามาเจอกันเตี๊ยมกันก่อนพรีเซนท์ แต่ก็โอเคค่ะ ทุกคนเตรียมของตัวเองมาบ้าง อย่างน้อยก็รู้ว่าตัวเองต้องพูดตอนไหน


สำหรับตัวพี่และเพื่อนอีกคนนึงนั้นรับผิดชอบในส่วนของภาพยนต์เรื่องแรก The Blind Side มาดูคลิปกันก่อนเลยค่ะ :)

 

ดูแล้วเป็นยังไงกันบ้าง ฟังทันไหมคะ 5555 ฟังยากนิดนึงนะเพราะว่าอันนี้เป็นสำเนียงอเมริกันของคนทางใต้ของประเทศค่ะ เค้าจะมีสำเนียงเป็นของตัวเอง

พอเปิดคลิปให้เพื่อนดูเสร็จแล้วเราก็เริ่มพูดอธิบายถึงทฤษฎีรวมทั้งตั้งคำถามให้เพื่อนๆในห้องที่เป็นคนฟังช่วยกันตอบ เสนอความคิดเห็น


Why Good Bosses Tune In To Their People - Robert Sutton เป็นบทความที่พี่และเพื่อนอีกคนเลือกที่จะมาใช้เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์คลิปนี้ค่ะ โดยหนึ่งในสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการเป็นผู้นำคือต้องแสดงความมั่นใจให้ผู้ตามได้รับรู้เพื่อให้ผู้ตามเกิดแรงบันดาลใจ เราก็ถามเพื่อนๆว่า ตัวละครผู้หญิงคนนี้แสดงออกอย่างไรว่าเธอมีความมั่นใจ

ส่วนที่เหลือก็มีวิธีการค้ายๆกันค่ะ คือมีคำถามให้เพื่อนๆในห้องได้ตอบ มี quote จากบทความ แล้วแต่ละสไลด์เราก็พูดสรุปว่าในคลิปมันเกี่ยวข้องกับ quote ที่เลือกมายังไง





จากใน slides ก็จะเป็นว่าเขียนน้อยมากๆค่ะ ทั้งหมดนี่คือพูดไปประมาณเกือบๆสิบนาทีสองคน  presentation ที่ดีคือไม่ใช่ว่ามีทุกอย่างบน slides ถ้าทุกอย่างมันเขียนมาหมดแล้ว แล้วคนจะฟังเราพูดทำไม เค้าก็อ่านเอาเองไม่เร็วกว่าหรอ? จริงไหมคะ? เพราะฉะนั้นเวลาใส่เนื้อหาอะไรใน slide ให้ใส่สิ่งที่สำคัญจริงๆ หรือสิ่งที่คนฟังจะมองหา เช่น quotes หรือคำถาม บางทีถามไปแล้วเพื่อนลืมว่าถามว่าอะไร เค้าก็จะได้อ่านดูได้เลย quote ก็สำคัญเพราะว่าเค้าจะได้อ่านอีกรอบเพื่อคิดกลับไปว่าทฤษฎีนี้เกี่ยวกับในคลิปยังไง คือทำให้คนฟังเข้าใจเรามากข้น คิดไปพร้อมๆกัน

วันนี้ก็รายงานไปสามกลุ่มค่ะ เพื่อนๆกลุ่มอื่นก็เลือกคลิปจากภาพยนต์เช่น Harry Potter, Mulan, The Wolf of Wallstreet, Miracle เป็นต้น เรียกได้ว่าเลือกหนังอะไรก็ได้มาพรีเซนต์ เพียงแต่เราต้องเข้าใจเนื้อหามากพอที่จะโยงคลิปนั้นๆให้เข้ากับสิ่งที่เราได้เรียนรู้ไป :)

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆนะค้าาาา วันหลังจะมาเล่าให้ฟังกันใหม่ ชอบไม่ชอบยังไงช่วยเมนต์บอกด้วยค่าาา มีข้อสงสัยอะไรก็ถามพี่ได้ตลอดนะคะ ก่อนจะจากกันไปพี่ก็มีเคล็ดลับในการ present งานมาฝากกันด้วยจ้าาาา!

รู้หรือไม่??
- Power Point ของเด็กอเมริกันส่วนใหญ่ไม่สวยไม่เลิศเลออะไร แต่เน้นที่การพรีเซนท์และเนื้อหาจริงๆ คือต้อง  engaging เพื่อนฟังรู้เรื่อง เข้าใจ มีการให้คนฟังได้มีส่วนร่วม แต่ถ้าใครทำมาได้สวยๆ ก็เป็นเรื่องดีค่ะ แต่อาจารย์เค้าไม่มีคะแนนสไลด์สวยให้หรอก
- ควรแต่งตัวให้ดูดีนิดหนึ่งเวลามีพรีเซนท์งาน ไม่ต้องถึงกับใส่สูท แต่ถ้าปกติใส่เสื้อยืด เสื้อมีฮูด กับกางเกงยีนส์ วันพรีเซนท์งานก็อาจจะใส่กางเกงสีดำกับเสื้อเชิ๊ต หรือใส่เดรสน่ารักๆก็ได้
- ควรฝึกซ้อมก่อนพรีเซนท์จริง ถ้าเพื่อนไม่ซ้อมด้วยก็ไม่เป็นไร เราก็ซ้อมแค่ในส่วนของเรา จะได้คล่องปาก ที่สำคัญคือจับเวลาด้วยเพราะเราก็ไม่อยากพูดเกินในส่วนของเรา อาจารย์บางคนโหดมาก พูดเกินที่กำหนดไว้นาทีเดียว หรือขาดไปนาทีเดียวก็ตัดคะแนนเพราะเค้าถือว่าเราไม่ซ้อมหรือเตรียมมาก่อน
- ควรมี note card จดรายละเอียดสิ่งที่จะพูดเอาไว้เล็กๆน้อยๆ อย่าเขียนเป็นประโยคว่าจะพูดอะไรบ้าง ไม่ควรเอากระดาษเอสี่ไปยืนอ่าน มันน่าเกลียดมาก
- พยายามพูดกับคนฟัง ไม่ใช่กับอาจารย์คนเดียว
- EYE CONTACT มองตาเธอออออออออ คนฟังจะได้รู้สึกว่าเราพูดกับเค้าจริงๆ
- พูดเสียงดังฟังชัดเจนแต่อย่าตะโกน เอาแค่ให้แน่ใจว่าคนที่นั่งหลังสุดฟังได้เข้าใจไม่มีปัญหา
- ถ้าตกใจ นึกคำไม่ออก ให้หยุดคิดแล้วทำหน้าเครียดๆ 555 ประสานสายตาเพื่อนเอาไว้ อย่าทำหน้าลอกแลกหรือพูดคำที่ใช้พูดส่งๆฆ่าเวลา เช่น uhh ahhhhh likee... i dont knoww.. you know... มันจะเหมือนว่าเราไม่ได้เตรียมตัวมา

by Zeem 
มาคุยกัน แชร์ความคิดเห็น และติดตามผลงานได้นะคะ
 
Facebook : Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน
Blog  http://dekthaiklaibaan.blogspot.com/
YouTube : https://www.youtube.com/user/dekthaiklaibaan

Email: dekthaiklaibaan@gmail.com
Line: dekthaiklaibaan

No comments:

Post a Comment