Friday, June 14, 2013

เจ๊จัดให้ครั้งยิ่งใหญ่ การเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ AFS

ประกาศกันไปแล้วสำหรับผลการสอบข้อเขียน AFS 53!!
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับน้องๆที่ผ่านด่านแรกไปได้!!  และขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่ไปไม่ถึงฝันในปีนี้ ปีหน้ายังมีนะคะ ไม่ต้องเสียใจไป! ถือซะว่ามีเวลาฟิตเตรียมพร้อมอีกหนึ่งปีเต็ม!ถ้ามีอะไรที่พี่ช่วยได้สามารถคุยกันได้ในเพจเลยจ้าหรือจะอีเมล์มาก็ได้ J พี่จะพยายามช่วยเต็มที่!

ส่วนใครที่ตอนนี้อยู่ม. 5 และจะไม่มีโอกาสสอบปีหน้า ถ้ายังอยากไปจริงๆและไม่ยึดติดกับชื่อโครงการ แนะนำให้สมัครของโครงการอื่นค่ะ โอกาสมีอยู่อีกเยอะ
! สามารถดูรายชื่อโครงการต่างๆได้ที่นี่ค่ะ

ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องขอบอกว่าเจ๊อัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก .... หลังจากที่ได้ไปตั้งกระทู้เพื่อให้น้องๆได้ถามคำถามเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ มีน้องๆหลายคนที่ตั้งคำถามทั้งในเด็กดีในเฟซบุค ในกรุ๊ปนี้และอีกล้านแปดเกี่ยวกับ AFS ซึ่งคำตอบมันหาได้ด้วยตัวเอง

เจ๊ขออัญเชิญให้น้องๆทั้งหลายที่สอบผ่านเข้าไปรอมสัมภาษณ์ให้กลับไปอ่าน
 ระเบียบการ!

มันมีรายละเอียดส่วนใหญ่ไว้อยู่แล้วววววววววว
!!!ไม่ใช่ว่ารำคาญหรือเบื่อไม่อยากตอบหรืออะไรหรอกนะคะ แต่เห้นแล้วมันหดหู่ใจ ถ้าจะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้วยังไม่รู้จักการอ่านเอกสารแบบนี้น้องลำบากแน่ๆ ฝึกไว้ตั้งแต่วันนี้ค่ะ! ขอแนะนำให้โหลดเก็บไว้เลย เข้าไปที่ลิงค์> File> Download
เดี๋ยวเข้ากันเยอะๆมันก็จะล่มอีกค่ะ !!! โอเค จบนะ!


AFS นี่ถือว่าเป็นโครงการที่เก่าแก่ที่สุด คนรู้จักกว้างขวางและมีคนสอบมากที่สุด! ตอนนี้น้องผ่านไปแค่ด่านแรกเท่านั้น! ยังมีอีกหลายด่านที่ต้องฝ่าฟัน 5555
ถ้าพูดกันตรงๆแล้ว ด่านการสอบสัมภาษณ์นี่แหละค่ะเป็นด่านที่โหดที่สุดในความคิดของพี่ 
เพราะจะโดนคัดออกกันซะส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ มาดูตัวเลขคร่าวๆของปีที่แล้วกันนะค่ะ 

คนสอบข้อเขียนประมาณ 15,000 คน  
ผ่านไปสัมภาษณ์ประมาณ 5,000 คน
จากที่ผ่านไปสัมภาษณ์ 5,000 คน  
ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS แค่ 800 เท่านั้น!
อันนี้คือรวมทุกประเทศแล้วนะคะ!!

เป็นไงหล่ะ ช๊อคกันรึยัง?! ชั้นบั่นทอนกำลังใจพวกแกป่ะเนี่ย 5555555
เพราะฉะนั้นควรเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีสำหรับด่านการสอบสัมภาษณ์นะจ๊ะ ฮึฮึฮึ :P

ไปถึงศูนย์สอบต้องทำอะไรบ้าง?

ขอแนะนำให้ไปถึงศุนย์สอบอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาเริ่ม อย่างแรกที่ต้องทำเลยคือ ไปหาบอร์ดที่แปะข้อมูลเกี่ยวกับการสัมภาษณ์เอาไว้ หาชื่อตัวเอง ห้องสัมภาษณ์ที่ต้องไป ดูด้วยว่าทำอะไรก่อนหลัง เพราะบางคนจะได้สัมภาษณ์เดี่ยวก่อนแล้วถึงสัมภาษณ์กลุ่ม บางคนทำกลุ่มก่อน ถ้ามีเวลาก็เดินดูลาดเลารอบๆโรงเรียนได้ค่ะ เข้าห้องน้ำอะไรให้เรียบร้อยก่อนสัมภาษณ์

กิจกรรมวันนั้นต้องทำอะไรบ้าง ?

วันสอบสัมภาษณ์จะมีกิจกรรมทั้งวันคะ แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างในแต่ละศูนย์สอบ ขึ้นอยู่กับขนาดของศูนย์สอบ จำนวนอาจารย์ จำนวนศิษย์เก่า AFS และจำนวนนักเรียนที่ผ่านไปสอบสัมภาษณ์
แต่โดยหลักๆแล้วจะแบ่งออกเป็นสามช่วง คือ

การตอบแบบสอบถามทางจิตวิทยา  

ส่วนนี้ถ้าใครได้เรียนวิชาแนะแนวอาจจะคุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว บางศูนย์อาจจะใช้ตัวนี้ประกอบการสัมภาษณ์ภายหลัง เป็นคำถามทั่วๆไป ไม่ยาก คิดอะไรได้ก็ตอบเลย
เค้าจะเริ่มประโยคมาให้ แล้วเราก็ต่อให้จบ

การสัมภาษณ์แบบกลุ่ม  

น้องจะได้อยู่ในกลุ่มซึ่งแรนดอมมา 55 เป็นเพื่อนจากต่างโรงเรียนบ้าง โรงเรียนเดียวกันบ้างแล้วแต่ จะมีอาจารย์และพี่ๆศิษย์เก่า เป็นคนให้คะแนน โดยเค้าจะให้โจทย์เรามา แล้วมาช่วยกันคิดวางแผน และแสดง! ถ้าจำไม่ผิดแล้วขั้นตอนทุกอย่างตอนปรึกษาหารือ และพรีเซนต์จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เช่น ถ้ากลุ่มของเราจะไปขึ้นเวทีแสดงความเป็นไทยที่นู่น เราจะทำอย่างไร เริ่มต้นยังไง ลำดับการแสดงยังไง จะแสดงออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

เค้าจะดูเรื่องความกล้าแสดงออก ความเป็นผู้นำ รู้จักวางแผน มีไอเดียดีดีหรือเปล่า ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีหรือไม่ อะไรประมาณนี้ค่ะ ก็พยายามมีส่วนร่วมกับการตัดสินใจ แสดงความคิดเห็นตามที่เราคิดเลย อาจจะมีการขอให้โหวต แบ่งงานกันทำเป็นส่วนๆ J อาจารย์หรือรุ่นพี่ที่ดูอยู่อาจจะถามคำถามหรือให้คำปรึกษาระหว่างนั้นด้วย

สำหรับตอนที่พี่ทำ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดคือแยกการแสดงออกเป็นภาคต่างๆของประเทศไทย มี
MC หนึ่งคนเป็นคนคอยพูดดำเนินรายงาน กล่าวแนะนำคร่าวๆว่าแต่ละการแสดงเป็นอะไร หมายถึงอะไร และเป็นการแสดงของภาคไหน พี่ได้ทำภาคใต้ ลิเกฮูลู 5555 ก็ร้องเพลงปักษ์ใต้บ้านเรา รู้สึกว่าจะพยายามแปลเนื้อเป็นภาษาอังกฟษเอง จำไม่ได้แล้วอะ 55 แล้วมีเพื่อนในกลุ่มตบมือ ทำท่าตาม สนุกมากกกอ่ะ 555 มีบางคนในกลุ่มแสดงการรำ ทั้งรำธรรมดา รำพัดซึ่งพัดก็ใช้พับกระดาษเอา 555 พี่คิดว่าน้องๆพอจะนึกภาพออกเนอะ

การสัมภาษณ์เดี่ยว  

เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากกกกก ว๊ากกฮ่าๆๆๆๆ (เจ๊บ้าไปแล้ว …) จะมีอาจารย์นั่งอยู่ประมาณ 2-3 คน อย่างแรกเค้าก็จะให้เราแนะนำตัวเองก่อนเลย! จากนั้นก็จะเริ่มถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว จุดเด่น จุดด้อยของเรา ครอบครัว การศึกษา และมันจะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ 5555 คือสัมภาษณ์เดี่ยวนี่จะขึ้นชื่อเรื่องการต้อนให้จนมุมค่ะ เรียกได้ว่าเป็นช่วงลับฝีมือการแถของเรา สีข้างถลอกกันเลยทีเดียว 5555


ระหว่างการรอสัมภาษณ์ทั้งสามอย่างข้างต้นนี้น้องก็อาจจะได้ไปรวมกลุ่ม ทำกิจกรรมสันทนาการกับรุ่นพี่ AFS เพื่อความสนุกสนาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเค้าก็ยังจับตามองเราอยู่ 5555 เพราะฉะนั้นต้องกล้าแสดงออก แต่ไม่ต้องเยอะมากนะ 55 

ใครเป็นคนสัมภาษณ์?

คนสัมภาษณ์จะมาจากสามกลุ่มหลักๆคือ อาจารย์ฝรั่ง อาจารย์ไทย และรุ่นพี่ศิษย์เก่า AFS หรือ Returnee โดยแต่ละศูนย์จะไม่เหมือนกันค่ะ แต่อาจารย์ไทยอะมีแน่ !

สัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ?

ส่วนตัวพี่คิดว่าส่วนใหญ่แล้วจะโดนทั้งสองภาษาค่ะ คือเริ่มด้วยภาษาอังกฤษและอาจจะเป็นภาษาไทยบ้างถ้ามันยากเกินไป ถ้าน้องๆไม่ค่อยมั่นใจหรือไม่ค่อยสันทัดเรื่องภาษาอังกฤษ ก็ตอบตามภาษาที่อาจารย์ถามมาก็ได้ ถามไทยตอบไทย ถามอังกฤษตอบอังกฤษ แต่่สวนตัวแล้วพี่พยายามตอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดค่ะ ถ้าไม่ได้จริงๆหรือถ้าอาจารย์บอกว่าภาษาไทยก็ได้ ถึงจะเปลี่ยนมาใช้ภาษาไทย 



ถ้าแปลไม่ออกก็สามารถถามได้คะ แต่พยายามถามกลับเป็นภาษาอังกฤษก่อน What do you mean by that? Can you please elaborate more on that? Can you please? rephrase the question  ถ้ายังไม่เข้าใจจริงๆค่อยขอให้ถามเป็นภาษาไทยค่ะ


ควรเตรียมตัวอย่างไร?


พยายาม brainstorm ในหัวว่าถ้าเจอคำถามนี้จะตอบยังไง อธิบายยังไง ไม่ต้องจดนะคะ! อาจจะมีรายชื่อคำถามไว้ได้ แต่ไม่ควรจดเพราะจะทำให้เราเกร็งกว่าเดิม เครียดและตื่นเต้นมากกว่าเดิม อาจจะให้เพื่อน อาจารย์หรือคุณพ่อคุณแม่ช่วยทำ mock interview หรือสัมภาษณ์เราเล่นๆเพื่อให้ชินกับการตอบคำถาม

วันสอบสัมภาษณ์ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง?

การแนะนำตัวเอง  

 เจอแน่ๆ!! คิดเตรียมไปเลยว่าจะพูดอะไรบ้าง จะจดก็ได้แต่พี่แนะนำว่าให้จดเป็น bullet points เพื่อที่เราจะได้เข้าใจไอเดียวคร่าวๆ ไม่ใช้ท่องไปพูด! อาจจะพูดเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไปเกี่ยวกับตอนเอง หรือพยายามตอบคำถามที่เราเตรียมมาไปด้วย เช่น
My name is ______. I am in grade ____  in ______ at _____ school. I want to be an exchange student because ______________. My parents __________.

Portfolio   

พอร์ตนี้สำคัญมากกกกกกกสำหรับน้องๆที่สอบชิงทุนเต็มจำนวน  AFS จะบอกมาเลยค่ะว่าต้องแยกประเภทเป็นผลงานด้านใดบ้าง รายละเอียดอยู่ในระเบียบการนะคะ 

ส่วนน้องๆ ที่สอบทุนทั่วไป เค้าไม่ได้กำหนดเจาะจงไว้ว่าต้องเตรียมพอร์ตไป แต่ก็เตรียมไปด้วยก็ได้คะ เป็นการเตรียมตัวอย่างหนึ่ง เวลาเราเล่าเกี่ยวกับอะไรจะได้มีหลักฐาน มีภาพให้ดูเลยก็อาจจะใส่เกียรติบัตรต่างๆ ภาพการแสดงเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่น้องเคยทำ กิจกรรมยามว่างที่น่าสนใจ งานอดิเรกต่างๆ เป็นต้น

การแสดงความสามารถพิเศษ  

อันนี้ถ้าต้องมีอุปกรณ์ไป ก็ให้เอาไปด้วย แต่ไม่ต้องจัดเต็มมากค่ะ เพราะเค้าไม่ได้สัมภาษณ์เราคนเดียว 5555 เช่นถ้าน้องรำพัดเป็น ก็เอาแค่พัดไปพอแล้ว ไม่ต้องเอาทั้งชุด หรือเอาขลุ่ยไทยไปเป่า เอาซอไปสี ประมาณนี้ค่ะ แค่ให้พอรู้ว่าเรามีความสามารถทางด้านนี้ และถ้าเตรียม portfolio ไป ก็ให้ใส่ภาพการแสดงที่เราเคยทำลงไปด้วย

นาฬิกาข้อมือ   

จะได้รู้เวลา รู้ว่าต้องทำอะไรตอนไหน

ดินสอ หรือปากกา 

มีติดตัวเผื่อไว้ว่าอาจจะได้ขีดเขียนไอเดียอะไรลงไป เช่น ตอนวางแผนทำกิจกรรมกลุ่ม ตอนตอบแบบสอบถามจิตวิทยา


จะถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง?



คำถามส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับตัวน้องเอง ความสามารถในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เกี่ยวกับประเทศที่น้องจะไป รวมถึงสถานการณ์สมมติอันน่ากระอักกระอ่วนใจทั้งหลาย 5555 

o   ทำไมถึงอยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
o   ทำไมถึงอยากไปประเทศนี้ รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้บ้าง
o   ถ้าพูดภาษาของประเทศที่เลือกไม่ได้ ก็อาจจะถามเรื่องการเตรียมตัว
o   กลัว หรือกังวลเรื่องอะไรมากที่สุด
o   ถ้าทะเลาะกับโฮสจะทำยังไง
o   ถ้าบ้านโฮสอยู่ห่างไกลความเจริญมากๆจะอยู่ได้ไหม
o   พ่อแม่เราว่ายังไง สนับสนุนให้ไปไหม
o   ถ้าฝรั่งถามเกี่ยวกับเรื่องไม่ดีของประเทศไทย เช่น การขายบริการ จะตอบว่ายังไง
o   ถ้าเพื่อนถามว่าขี่ช้างไปโรงเรียนหรือเปล่าจะตอบว่ายังไง
o   ถ้ามีคนมาดูถูกประเทศไทยจะตอบกลับไปว่าอย่างไร
o   เรื่องการทำผิดกฏของ AFS เช่นถ้าเพื่อนมาชวนไปปาร์ตี้และกินเหล้าจะทำยังไง
o   ถ้ามีผู้ชายมาชอบ แล้วขอมีอะไรกับเราจะทำยังไง
o   แล้วก็ถามไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะจนมุม 55555555
ความโหดจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ศุนย์ แล้วแต่ว่าน้องได้ใครเป็นคนสัมภาณษ์นะคะ บางคนถามโหดมากๆๆ แต่บางทีเค้าไม่ได้หวังให้เราตอบอะไรเลิศเลอหรอก เค้าแค่อยากรู้ว่าเราจะแก้สถานณการณ์ยังไง

นอกจากนี้ยังมีคำถามอื่นๆอีก แล้วแต่เค้าจะถามเลยค่ะ ในเด็กดีมีรวบรวมคำถามที่อาจเจอไว้ด้วย

มีเทคนิคการตอบคำถามบ้างไหม?



พยายามตอบเป็นภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่สมองน้องจะอำนวย 555 ถ้าไม่ได้จริงๆก็ตอบเป็นภาษาไทยได้
เน้นการโชว์ศักยภาพของเรา ว่าเรามีดีตรงไหนบ้าง พยายามตอบให้ตรงประเด็นก่อน แล้วค่อยอธิบายถ้าน้องอยากจะชักแม่น้ำทั้งห้าก็อย่าเยอะเกิน
55 ที่สำคัญคือพยายามโยงเรื่องประสบการณ์ส่วนตัวเข้าไปในคำตอบ
เช่น ตอนที่หนู...... ก็มีปัญหาประมาณนี้และหนูแก้ปัญหาโดยการ .......


คะแนนจะคิดยังไง?


บอกตรงๆว่าไม่รู้ค่ะ 555 เพราะไม่เคยเป็นคนสัมภาษณ์เอง แต่คิดว่าน่าจะเอาไปรวมกันนั่นแหละ หรือไม่ก็ใช้ประกอบการสัมภาษณ์  โดยเฉพาะน้องๆที่สอบทุนเต็มจำนวนนี่พี่คิดว่าเค้าเก็บทุกดอกเลยค่ะ 5555

รำไทยไม่เป็นแล้วจะแสดงความสามารถพิเศษอะไร?


ความสามารถพิเศษของคนเราในโลกนี้มีเยอะมากกกกกกกกก อย่านะ!  อย่าได้คิดว่ารำไทยคือวิธีเดียวที่จะเผยแพร่ความเป็นไทย! 555 บ่องตงว่าเพื่อนๆนักเรียนแลกเปลี่ยนหลายคนก็รำกันไม่เป็น! 555  ลองคิดดูนะคะว่ามีงานอดิเรกอะไรของเราที่สามารถนำไปแสดงได้ เช่น เล่นเครื่องดนตรีไทย หรือเครื่องดนตรีสากลแต่เล่นเพลงไทยหรือเพลงพระราชนิพนธ์ มวยไทยเล็กๆน้อยๆ การทำอาหารไทยๆ เป็นต้น

อย่างเช่นน้องคนนี้เล่น คลาริเนท เป็นเครื่องดนตรีที่ไม่ใหญ่มาก ขนไปได้แต่อาจจะต้องระวังนิดนึงเรื่องว่าจะเอาไปตั้งตรงไหนอะไรยังไง แนะนำให้น้องฝึกเล่นเพลงไทยๆไปค่ะ

ตอนพี่สอบสัมภาษณ์พี่ก็รำไม่เป็นค่ะ ปัจจุบันนี้ก็รำมั่วๆ 555 เพราะไม่เคยเรียนมา
ตอนนั้นพี่ใช้การอ่านทำนองเสนาะเป็นการแสดงความสามารถพิเศษ เพราะโดนส่งประกวดมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์ก็แอบงง
55 แล้วฝรั่งจะรู้เรื่องกับหนูเหรอ 555 แต่พี่เตรียมตัวอธิบายไปอย่างดี ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งนี้แสดงออกถึงความเป็นไทยตรงไหน กลอนบทนี้พูดเกี่ยวกับอะไร พออ่านจบอาจารย์ก็ถามต่อว่าทำไมถึงชอบอ่านทำนองเสนาะ พี่ก็ตอบไปว่าเพราะเป็นคนชอบร้องเพลง โดยเฉพาะเพลงสากลชอบมากๆ อาจารย์เลยให้ร้องเพลงให้ฟังด้วย !!!!!
O_o !! เจ๊จัดไปคร่าาาาา My Heart Will Go On อายมากกกกกกกกกกกกกกก >///< 5555
เลยบอกอาจารย์ไปว่าหนูขอปิดตาร้องได้ไหมค่ะ หนูอาย 555 แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะ
ไม่เสียแรงที่ร้องเพลงจนที่บ้านรำคาญอยู่หลายปี
555555
เห็นไหมค่ะว่าถ้าเราเตรียมตัวมาดี และกล้าแสดงออก อะไรก็เป็นความสามารถพิเศษได้ทั้งนั้นแหละ!


สุดท้ายนี้ขอฝากไว้เพิ่มเติม คือ
  • ทำความรู้จักกับเพื่อนๆในกลุ่มไว้ ยังคงมีมิตรภาพในการแข่งขันเสมอ ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว 555 ก็รู้จักกันไว้สักนิดไม่เสียหาย ระหว่างรอสัมภาษณ์ก็คุยกันไปเพลินๆ ถามเพื่อนดูว่าตื่นเต้นไหม เตรียมการแสดงอะไรมา มาจากไหน มาสอบทุนประเภทไหน ลดความตื่นเต้นให้ตัวเองได้ด้วยค่ะ เพราะน้องจะเจอเพื่อนที่ความรู้สึกเดียวกันเลย 555 เจอใครหล่อๆก็แอบขอเฟซบุคมาได้ 555
  • ยิ้มแย้มและมีสัมมาคารวะ ให้เกียรติเพื่อนๆ พี่ๆ และอาจารย์
    เข้าห้องสอบไปแล้วอย่าลืมไหว้และยิ้มสวยๆ
    ไหนๆก็จะเป็นตัวแทนของสยามเมืองยิ้ม 55 J  ถ้าในกลุ่มมีคนที่แก่กว่าเราก็ควรเรียกเค้าว่าพี่เพื่อเป็นการให้เกียรติ
  • เป็นตัวของตัวเอง อย่าเยอะมาก และอย่าเฟค เพราะอาจารย์และพี่ๆเค้าจะรู้ค่ะ
  • คำถามไหนที่ตอบเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็สามารถตอบเป็นไทยได้ค่ะ ขออนุญาติอาจารย์เค้าได้ และบอกว่าถ้าตอบเป็นภาษาไทยจะตอบได้ดีกว่า
  • อย่าท่องคำตอบไป อย่าใช้คำเว่อร์อย่างกับจะไปสมัครเป็น ส.ส. 555 พูดอะไรให้มันชัดเจน เข้าใจง่ายๆ
  • ไม่จำเป็นต้องรีบตอบคำถามเลย ใช้เวลาคิดได้เล็กน้อยก่อนตอบ ระหว่างตอบก็หยุดคิดได้ แต่อย่า เอ่อ.. อ่า.... เอิ่ม.. แบบ... ให้มันเยอะเกินไปนัก ให้ pause ไปเลย ใช้เวลาคิดแล้วเริ่มพูดใหม่
  • ต้องกินข้าวเช้าไป หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ต้องกิน เพราะจะทำให้เราสมองแล่น
    แวะหาอะไรกินที่เซเว่นก็ยังดีค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละศูนย์สอบอาจจะแตกต่างกันไปนะคะ
เนื้อหาทั้งหมดเขียนไว้เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวเท่านั้น!



by Zeem
AFS#48 YES#4 ทุนมุสลิม USA
มาคุยกัน แชร์ความคิดเห็น และติดตามผลงานได้นะคะ
 
Facebook : Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน
Blog  http://dekthaiklaibaan.blogspot.com/
YouTube : https://www.youtube.com/user/dekthaiklaibaan

Email: dekthaiklaibaan@gmail.com
Line: dekthaiklaibaan


4 comments:

  1. U/|\U ขอบคุณมากค่ะ =[]= จะสู้ให้เต็มที่ ถึงปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็จะสู้อีกรอบค่ะ // เอ่อ แต่มีคำถาม ถ้าสมมต อยู่ ม 6 แล้วอายุ17 ยังสอบได้อยู่รึป่าวคะ แล้วก็ ถ้าจบ ม 6 แล้วอายุ 18 จะยังสอบได้อยู่รึป่าวคะ คือกลัวว่าจะไม่ติดมันซะทุกปีT[]T

    ReplyDelete
  2. ไม่ได้ค่าาา ต้องตรงตามคุณสมบุตัทุกอย่างจ้า

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณค่ะ U/|\U แล้วก็ความรู้ดีๆเยอะๆด้วยค่ะ *[]*

      Delete
  3. ขออนุญาตนะคะ อาจจะนานไปหน่อย แต่วัันที่17นี้มีรับสมัครและสอบออนไลน์ค่ะ อาจจเป็นข้อเขียน ควรเตรียมตัวไงบ้างคะ

    ReplyDelete