Monday, May 13, 2013

อยู่ไทยก็เก่งได้ : เทคนิคเก่งอังกฤษ ตอน Reading

 

          ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นมันมีล้านแปด บางทีก็ไปยืมมาจากภาษาอื่นอีก ขนาดเจ้าของภาษาเองพี่ยังกล้ายืนยันเลยนะว่าเค้าไม่รู้ศัพท์ทุกคำหรอกคะ ที่เราเรียนๆกันอย่างผิดวิธีคือท่องศัพท์ไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้ใช้นั้น ท่องให้ตายก็อ่านอะไรไม่รู้เรื่องค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้พี่จะมาแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่น้องในเรื่องของการพัฒนา Reading skills และจำ vocab ต่างๆ

1. ปรับทุกอย่างรอบตัวให้เป็นภาษาอังกฤษ
          มือถือน้องมีกันทุกคนใช่ไหมคะ ? แล้วเฟซบุค อีเมล์ละ ? พวกสื่อต่างๆพวกนี้ที่เราเห็นทุกวันจะทำให้เราซึมซับภาษาอังกฤษไปอย่างไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น
การกด Like -->  Like = ชอบ
Subscribe, follow = ติดตามคนๆนั้น หรือช่องนั้น
share = แบ่งปัน
          อ่านมาถึงตอนนี้น้องอาจจะคิดว่า อะไรเนี่ยพี่ใครๆก็รู้อ่ะ ศัพท์ง่ายๆ น้องลองคิดดูถ้าน้องไม่เคยดูยูทูปที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วน้องจะรู้จักจำว่า Subscribe ไหมค่ะ ? สมมติว่าถ้าประเทศไทยไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ไม่มีรถขับกัน พี่เชื่อว่าน้อยคนมากๆจะรู้จักคำ start ถ้าเราปรับความคิดได้แบบนี้ ก็จะทำให้เราเห็นทุกอย่างรอบตัวเป็นความรู้หมดเลย
          พี่มีเพื่อนคนหนึ่งค่ะเป็นชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองเหมือนกันพี่ ทีนี้เพื่อนพี่คนนี้มันชอบภาษาเยอรมันมาก มันบอกว่าเยอรมนฟังแล้วเพราะ มีพลัง อย่างนู้นอย่างนี้ 5555 แล้วมันก็ตั้งค่าเฟซบุคของมันให้เป็นภาษาเยอรมันเลยคะ ปรากฏว่าได้เรียนรู้ศัพท์หลายคำเลย !

2. อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า !
         
นอกจากสิ่งที่เราสามารถตั้งค่าให้มันเป็นภาษาอังกฤษได้แล้ว มองไปรอบๆตัวจะเห็นว่าภาษาอังกฤษมันอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่น้องคิดนะ! พยายามอ่านป้ายโฆษณาต่างๆ อาจจะเป็นสโลแกนหรือฉลากสินค้าอะไรก็ได้ เก็บศัพท์ทีละเล็กทีละน้อย แล้วมันจะพัฒนาไปเรื่อยๆเองคะ
          มีอีกเทคนิคหนึ่งที่เก๋กู๊ดมากๆ คือมองของรอบๆตัวเราแล้วแปลมันเป็นภาษาอังกฤษค่ะ !!! เวลาว่างๆก็แทนที่จะควักโทรศัพท์ออกมากดเล่นเกมส์ก็มองรอบตัวเอาค่ะ แล้วคิดไปเรื่อยๆ อย่างเช่น
          The mall = ห้างสรรพสินค้า
          รถไฟฟ้า = sky train
          รถไฟใต้ดิน = subway
          เสา = pole
          รอ = wait
          ง่วง = sleepy  ใช้ได้กับความรู้สึกของเราด้วย 55555

3. เพิ่มเลเวลความยากด้วยการอ่านนิตยสารภาษาอังกฤษ
           นิตยสารที่ว่านี้ก็คือ student Weekly และ Nation Junior นั่นเอง! เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักนะคะ
ราคาไม่แพงเลยคะ เป็นการลงทุนที่ต่ำมาก เล่มละประมาณสามสิบบาทเอง ที่สำคัญคือเค้าจะมีคำแปลคำศัพท์ที่เราควรรู้จากบทความนั้นๆใส่กล่องไว้ให้เลยข้างข้อความ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดดิกเลย ! แนะนำให้น้องๆพยายามอ่านให้จบก่อนรอบนึงโดยไม่ต้องดูศัพท์นะคะ หาอะไมาปิดไว้ก็ได้ แล้วถ้าไม่เข้าใจตรงไหนจริงๆก็ค่อย แอบแง้มดูตอนอ่านเก็บตกรอบที่สอง
          นิตยสารเหล่านี้นอกจากจะสะดวก ราคาถูกแล้ว ยังอ่านสนุกด้วยเพราะจะมีบทสัมภาษณ์ดารานักร้อง อัพเดตข่าวคราวต่างๆ มีเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษด้วย ของเนชั่นจูเนียร์นี่ถ้าจำไม่ผิด พี่แนน Enconcept เป็นคนเขียนเองเลย! นอกจากนี้แล้วยังมีข้อสอบให้น้องๆฝึกทำกันด้วย
          
4. ไม่ต้องแปลออกทุกคำ แต่ต้องจับใจความได้
          ข้อนี้คือสำหรับการอ่านภาษาอังกฤษทุกอย่างบนโลกนี้เลยนะคะ ไม่ต้องโวยวายตกใจจะเป็นจะตายค่ะ น้องไม่รู้ไม่เข้าใจศัพท์ทุกคำไม่เป็นไร แต่ต้องเข้าใจว่ารวมๆแล้วเนี่ยคนเขียนต้องการจะสื่ออะไร
ประมานว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เหมือนเราเรียนวิชาภาษาไทยตอนเด็กๆนั้นแหละ ถ้าตอบคำถามพวกนี้ได้แล้วถือว่าผ่านในระดับหนึ่งเลย !!!

5. เปิดดิกเฉพาะคำสำคัญๆเท่านั้น
          สืบเนื่องมาจากข้อข้างบนเลยค่ะ เปิดดิกนอกจากจะเสียเวลาแล้ว บางครั้งยังไม่ช่วยให้เราเข้าใจอะไรเลยด้วย เพราะน้องมัวแต่ก่วงว่าคำนี้เปิดยัง คำที่เพิ่งเปิดไปแปลว่าอะไรแล้วนะ ฯลฯ สรุปว่าเปิดไปเปิดมา งง ตัวเอง ๕๕๕๕​ อ่านไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นโฟกัสที่ตัวเนื้อความภาพรวมจะดีกว่าคะ

6. เรียนพิเศษไม่ได้ผลถ้าเอาแต่ท่องศัพท์แต่ไม่รู้วิธิการใช้ !
          จริงอยู่ที่ว่าการท่องศัพท์นั้นสำคัญมากๆ โดยเฉพาะน้องๆที่จะสอบแอดมิชชั่น แต่ถ้าท่องไปแล้วจำแต่ความหมาย ไม่จำวิธีใช้ยิบย่อย ศัพท์เหล่านั้นเราก็ือไม่ได้จำจริงๆ ให้น้องๆลองคิดถึงสมองตัวเองว่าเป็นกล้ามเนื้อในร่างกายอย่างหนึ่งนะคะ สมมติว่าน้องอยากเตะบอล ดูบอลมาเยอะมากละ รู้เลยว่าจังหวะไหนต้องวิ่งไปทางไหนอะไรยังไง แต่ไม่เคยลงสนามเตะจริงๆ พอถึงวันแข่งลงสนามจริงมันก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะถ้าไม่ฝึกให้ทำบ่อยๆ สมองเราก็เหมือนกัน จำอย่างเดียวไม่พอต้องเอามาใช้ด้วย

7. ฝึกอ่านทุกวัน!
          ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยค่า ถ้าเราทำอะไรไม่ต่อเนื่องมันไม่ประสบความสำเร็จหรอกค่ะ ต้องมีความพยายามและอดทน อ่านวันละย่อหน้า วันละเรื่อง วันละเล่ม แค่ไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วของการอ่านที่น้องทำได้ พยายามเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ แะลเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆด้วย  พี่เชื่อว่าน้องๆทุกคนทำได้ค่ะ !!

by Zeem 
AFS#48 YES#4 ทุนมุสลิม USA
มาคุยกัน แชร์ความคิดเห็น และติดตามผลงานได้นะคะ
 
Email: dekthaiklaibaan@gmail.com
Line: dekthaiklaibaan

1 comment: